Leverage คืออะไร
สารบัญ หัวข้อ
Leverage คืออะไร ?
Video Leverage คืออะไร เข้าใจใน 3 นาที
Leverage คือเครื่องมือช่วยเพิ่มความสามารถในการลงทุน
- ทำให้สามารถซื้อสินทรัพย์ในปริมาณที่สูงขึ้นได้ หรือซื้อได้มากกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่จริง
- ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์ที่เปิดบัญชีนั้น จะให้เลือกได้ว่าต้องการใช้ Leverage ขนาดเท่าไหร่
ตัวอย่างเช่น Leverage = 1:100
- หมายความว่าสามารถซื้อสินทรัพย์ได้ 100 เท่า ของเงินทุนที่มีอยู่จริง
- สรุปก็คือ เงินทุน 100$ แต่สามารถถือครองสินทรัพย์ได้ในมูลค่า 10,000$
*Leverage ไม่ได้ทำให้คุณเป็นหนี้
- เพราะคุณไม่สามารถที่จะขาดทุน ได้เกินกว่าจำนวนเงิน Balance ที่มีอยู่ในพอร์ต
- Leverage เป็นเพียงตัวช่วย ให้คุณสามารถส่งคำซื้อในปริมาณที่สูงขึ้น เท่านั้น
เปรียบเทียบการตั้งค่า Leverage
Leverage มีความสัมพันธ์กับ Lot Size ในการเทรด
- การกำหนด Leverage ที่สูงขึ้น > ช่วยให้สามารถส่งคำสั่งซื้อใน Lot Size ที่ใหญ่ขึ้นได้
ตัวอย่าง:
- เงินทุน 1,000$ , Leverage 1:100 > Lot สูงสุดที่เปิดได้ = 1.00 (100,000 Unit)
- เงินทุน 1,000$ , Leverage 1:200 > Lot สูงสุดที่เปิดได้ = 2.00 (200,000 Unit)
- เงินทุน 1,000$ , Leverage 1:500 > Lot สูงสุดที่เปิดได้ = 5.00 (500,000 Unit)
ตัวอย่างการใช้งาน Leverage
ตั้งค่า 1:100 , เงินทุน 1,000$
- หมายความว่า คุณสามารถเปิด Order โดยใช้ Lot Size ขนาดสูงสุดได้ที่ 1.00
- โดยใน Lot ขนาด 1.00 นั้นหากราคาเคลื่อนที่ไป 1 Pip จะเท่ากับ 10$ โดยเฉลี่ย
* หากคุณใช้ทุน 1,000$ แล้วเทรดขนาด Lot สูงสุด 1.00
- ถ้าขาดทุน 100 Pips ก็จะล้างพอร์ต
- ถ้ากำไร 100 Pips ก็จะกำไร 1,000$
การตั้งค่า 1:200 , เงินทุน 1,000$
- หมายความว่าคุณสามารถเปิด Order โดยใช้ Lot Size ขนาดสูงสุดได้ที่ 2.00
- โดยใน Lot ขนาด 2.00 นั้นหากราคาเคลื่อนที่ไป 1 Pip จะเท่ากับ 20$ โดยเฉลี่ย
* หากคุณใช้ทุน 1,000$ แล้วเทรดขนาด Lot สูงสุด 2.00
- ถ้าขาดทุน 50 Pips ก็จะล้างพอร์ต
- ถ้ากำไร 50 Pips ก็จะกำไร 1,000$
*เลเวอเรจ ไม่เกี่ยวกับมูลค่าของ Lot, Pips
- ไม่ว่าคุณจะตั้งค่า Leverage เป็นจำนวนเท่าไหร่
- การเปลี่ยนแปลงต่อ 1 Pip (กำไร/ขาดทุน) ก็ยังคงเท่าเดิม
- การตั้งค่าเลเวอเรจที่สูงขึ้น ช่วยให้คุณสามารถเปิด Order โดยใช้ Lot ที่สูงขึ้นได้
- หรือก็คือสามารถเปิด Order ได้มากยิ่งขึ้น โดยใช้เงินทุนเท่าเดิมเท่านั้น
ความสัมพันธ์ Leverage กับ Margin
Leverage กับ Margin มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญ
- กล่าวโดยสรุปคือ Leverage ที่สูงขึ้นส่งผลให้ Margin ที่ใช้จะต่ำลง
กรณีตัวอย่าง Leverage = 1:1
- หากส่งคำสั่งซื้อ 1.00 Lot Size
- Margin ที่ต้องใช้ = 100,000$
- สรุปคือต้องวางเงินประกันเต็มจำนวน
กรณีตัวอย่าง Leverage = 1:100
- หากส่งคำสั่งซื้อ 1.00 Lot Size
- Margin ที่ต้องใช้ = 1,000$
- สรุปคือวางเงินประกันเพียง 1%
*จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ถึงความสัมพันธ์กับ Margin
- Leverage ที่สูงขึ้นจะส่งผลให้ Margin ที่ใช้ลดต่ำลง
- เรียนรู้เพิ่มเติม: Margin สำคัญอย่างไร?
Leverage มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
เครื่องมือนี้อาจเป็นเหมือน “ดาบสองคม” ซึ่งผู้ใช้งานจำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงความเสี่ยง
ข้อดี:
- เพิ่มโอกาสในการทำกำไร, ใช้เงินทุนที่น้อยลง
- เพราะการตั้ง Leverage ที่สูงขึ้น ส่งผลให้สามารถเปิดคำสั่งซื้อใน Lot Size ที่ใหญ่ขึ้นได้
- ซึ่งนี่เป็นข้อได้เปรียบสำคัญของธุรกิจ Forex ที่มีเลเวอเรจสูงๆระดับ 1:500
ข้อเสีย:
- อาจทำให้ความเสี่ยงในการเทรดสูงขึ้น (กรณีส่งคำสั่งซื้อขนาดที่ใหญ่ขึ้น)
- จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนบริหารความเสี่ยงในการเทรด อย่างรอบคอบ!
- นักลงทุนมืออาชีพส่วนใหญ่ ตั้งค่าความเสี่ยงในการเทรดแต่ละครั้งเพียง 1-2% ของเงินทุนเท่านั้น
สรุป Leverage คืออะไร
Leverage คือเครื่องมือช่วยเพิ่มความสามารถในการลงทุน ตัวช่วยให้คุณสามารถส่งคำซื้อในปริมาณที่สูงขึ้น เพิ่มโอกาสในการทำกำไร ใช้เงินทุนที่น้อยลง สามารถเปิดคำสั่งซื้อใน Lot Size ที่ใหญ่ขึ้นได้ เช่น
- เงินทุน 1,000$ ตั้งค่า 1:100 ขนาดสูงสุดได้ที่ 1.00
- เงินทุน 1,000$ ตั้งค่า 1:500 ขนาดสูงสุดได้ที่ 5.00
- เงินทุน 1,000$ ตั้งค่า 1:1000 ขนาดสูงสุดได้ที่ 10.00
การใช้ Leverage สูง ทำให้ความเสี่ยงในการเทรดสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนบริหารความเสี่ยงในการเทรด อย่างรอบคอบ!
ขอบคุณบทความจาก : https://forexnew.org/คลังความรู้/leverage-คืออะไร/